สไลโชว์

นาฬิกา

วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

การปลูกผักกาดขาว

การปลูกผักกาดขาวสามารถทำได้ 2 วิธีด้วยกันคือ การปลูกลงบนแปลงปลูกโดยตรง และการปลูกโดยการเพาะกล้าก่อนแล้วย้ายไปปลูกในแปลงปลูก จะเลือกใช้วิธีใดนั้นขึ้นอยู่กับความสะดวกและความเหมาะสมของปัจจัยของเกษตรกรเอง เช่น แรงงาน ลักษณะของแปลง และจำนวนเมล็ดพันธุ์ เป็นต้น
การปลูกลงบนแปลงปลูกโดยตรง การปลูกผักกาดขาวด้วยวิธีนี้มี 2 แบบ คือ
1. แบบหวานโดยตรง โดยการหว่านเมล็ดพันธุ์ให้กระจายทั่วทั้งแปลง ซึ่งการปลูกแบบนี้เหมาะสำหรับกรณีที่เมล็ดพันธุ์มีราคาไม่แพง และโดยเฉพาะในท้องที่ภาคกลางที่ยกแปลงกว้าง มีร่องน้ำ การหว่านควรหว่านให้เมล็ดกระจายสม่ำเสมอ โดยทั่วไปนิยมผสมพวกทรายหรือเมล็ดผักที่เสื่อมคุณภาพแล้วที่มีขนาดพอๆ กันลงไปด้วย เพื่อให้เมล็ดพันธุ์กระจายได้สม่ำเสมอยิ่งขึ้น จากนั้นใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักหว่านทับลงไปหนาประมาณ 1/2 - 1 เซนติเมตร เพื่อช่วยรักษาความชื้น เสร็จแล้วจึงคลุมด้วยฟางแห้งสะอาดบางๆ อีกชั้นหนึ่งรดน้ำด้วยบัวฝอยละเอียดให้ทั่วถึงสม่ำเสมอ หลังจากต้นกล้างอกและมีใบจริง 1-2 ใบควรถอนแยกเพื่อจัดระยะปลูกและถอนแยกครั้งสุดท้ายไม่ควรปล่อยให้กล้ามีอายุเกิน 25-30 วัน โดยจัดระยะปลูกระหว่างต้นและระหว่างแถวประมาณ 50 x 50 เซนติเมตร
2. แบบปลูกเป็นแถวหรือหยอดเป็นหลุม โดยการหยอดเมล็ดให้เป็นแถวบนแปลงปลูก โดยให้ระยะระหว่างแถวห่างกัน 50 เซนติเมตร หยอดเมล็ดลึกประมาณ 1/2 - 1 เซนติเมตร หรือทำเป็นหลุมตื้นๆ หยอดเมล็ดลงประมาณ 3-5 เมล็ด ใช้ดินกลบให้หนา 1/2 เซนติเมตร ใช้หญ้าแห้งหรือฟางคลุมบางๆ รดน้ำด้วยบัวฝอยละเอียด เมื่อต้นกล้าเริ่มมีใบจริง 2 ใบให้ ทำการถอนแยกให้เหลือหลุมละ 1 ต้น ให้ได้ระยะต้นในแต่ละแถวเท่ากับ 50 เซนติเมตร และถอนแยกครั้งสุดท้ายอายุไม่ควรเกิน 30 วัน
การปลูกโดยการเพาะกล้าแล้วย้ายกล้าไปปลูก การปลูกผักกาดขาวด้วยวิธีนี้จะประหยัดเมล็ดพันธุ์ได้มาก โดยเฉพาะถ้าเป็นการปลูกโดยใช้เมล็ดพันธุ์ลูกผสมที่มีราคาแพง
หลังจากเตรียมดินแปลงเพาะกล้าเรียบร้อยแล้ว ให้หว่านเมล็ดให้ทั่วพื้นผิวแปลง แล้วใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักที่สลายตัวดีแล้วหว่านกลบให้หนาประมาณ 1/2 - 1 เซนติเมตร หรืออาจใช้วิธีหยอดเมล็ดเป็นแถวห่างกันแถวละประมาณ 5-10 เซนติเมตร ลึกลงไปในดินประมาณ 1/2 - 1 เซนติเมตร เมล็ดควรโรยให้ห่างกันพอสมควร แล้วหว่านกลบด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักหรือดินผสมแล้วรดน้ำด้วยบัวฝอยละเอียดให้ทั่วแปลง คลุมแปลงด้วยหญ้าแห้งหรือฟางสะอาดบางๆ เพื่อช่วยเก็บรักษาความชื้นในดินและป้องกันการกระแทกของน้ำต่อเมล็ดและต้นกล้าที่ยังเล็กอยู่
เนื่องจากกล้าผักกาดขาวค่อนข้างอ่อนแอ ดังนั้นควรย้ายชำลงถุงพลาสติกหรือกระทงก่อนเมื่อกล้าอายุประมาณ 20-25 วัน จากนั้นหมั่นดูแลรักษาและป้องกันโรคแมลงที่อาจเกิดขึ้น ก่อนการย้ายกล้าลงปลูกในแปลงควรทำให้กล้าแข็งแรง โดยการนำต้นกล้าออกตากแดดบ้าง อายุกล้าที่เหมาะสมในการย้ายปลูกคือ 30-35 วัน ไม่ควรใช้กล้าที่มีอายุมากเกินป การย้ายกล้าไปปลูกควรย้ายในช่วงบ่ายๆ ถึงเย็น หรือช่วงที่อาศมืดครึ้ม นำต้นกล้าปลูกในแปลงปลูกที่เตรียมไว้แล้ว โดยใช้ระยะห่างระหว่างต้นและระหว่างแถว 50 x 50 เซนติเมตร หลังจากปลูกเสร็จแล้วใช้ฟางหรือหญ้าแห้งคลุมดินอีกชั้นหนึ่ง เพื่อช่วยรักษาความชื้นในดินและผักตั้งตัวได้เร็ว แล้วรดน้ำด้วยบัวฝอยละเอียด
การปลูกด้วยวิธีการเพาะกล้าก่อนนำไปปลูกนี้จะทุ่นค่าเมล็ดพันธุ์ ค่าปุ๋ย และปลูกได้เป็นระเบียบสวยงาม การดูแลและทำงานได้ปราณีตขึ้นทำให้ได้ผลผลิตดีขึ้น ทุ่นเวลาและแรงงานที่จะดูแลรักษาในขณะที่ยังเป็นต้นกล้าอยู่ แต่ในเวลาย้ายปลูกจะต้องใช้แรงงานมากในการปลูกให้รวดเร็ว

วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2552

วันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2552

สิ่งประดิษฐ์จกกะลามะพร้าว


ผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าว ของดีจากธรรมชาติ
ในอดีตกะลามะพร้าวถูกนำมาทำเครื่องใช้หลายชนิดที่ยังพอมีให้เห็นเป็นของเก่าอยู่บ้างคือ จอกตักน้ำ หรือกะโหลกตักน้ำ หรือ ทะนานที่ใช้สำหรับตักข้าวสาร และยังมีอีกหลายชนิดที่แล้วแต่จะเรียกชื่อกันนับเป็นภูมิปัญญาของคนสมัยก่อนที่มีวิถีชีวิตแบบ ไทย ๆใช้ของไทยที่ผลิตขึ้นเองจากวัสดุในท้องถิ่นสิ่งต่าง ๆเหล่านี้เริ่มเลือนหายเมื่อความเจริญทางด้านเทค โนโลยีต่าง ๆเข้ามาแทนที่จึงหันไปใช้พวกโลหะหรือพลาสติกแทน


แต่ปัจจุบันยังมีคนบางกลุ่มที่เห็นประโยชน์ของกะลามะพร้าวและพยายามฟื้นฟูภูมิปัญญาท้องถิ่นในการสร้างคุณค่าให้เกิดกับกะลามะพร้าวซึ่งเป็นวัสดุเหลือใช้ในท้องถิ่นและเชิญชวนให้คนทั่วไปหันกลับมาเห็นคุณค่าของภูมิ ปัญญาเหล่านี้

นายพีรพล โสวัตร ประธานกลุ่มแปรรูปกะลามะพร้าว ต.หนองยาว อ.พนมสารคามจ.ฉะเชิงเทรา สังกัดสหกรณ์การเกษตรพนมสารคาม จำกัด เปิดเผยว่าการสร้างผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าวเริ่มต้นจาก อ.บุญเสริม บุญเจริญผลเป็นคนในพื้นที่นี้และอยากช่วยชาวบ้านให้มีอาชีพ

ท่านเห็นว่าพื้นที่นี้มีมะพร้าวเป็นทรัพยากรเลยคิดว่าน่าจะเอามาทำประโยชน์จึงส่งให้ไปเรียนรู้จากกระทรวงอุตสาหกรรมเกี่ยวกับอุตสาหกรรมพื้นบ้านระยะสั้น หลังจากนั้นจึงนำความรู้มาถ่ายทอดและทำสินค้าเริ่มแรกทำเป็นเครื่องใช้ พวกแก้วน้ำ ชามใส่ ข้าว ถ้วย หิ้วไปขายหน้ารามฯหน้าจตุจักร แต่ไม่ประสบผลสำเร็จก็ปรับปรุงมาเรื่อย ๆจากเครื่องใช้เป็นเครื่องประดับ เครื่องตกแต่งลองตลาดไปเรื่อย ๆจากการไปขายของทำให้รู้ว่าเราต้องผลิตตัวไหน

เริ่มแรกเราไปตระเวนหามะพร้าวที่เขาทิ้งพวกมะพร้าวที่เพาะไม่ขึ้นมะพร้าวหล่น มะพร้าวที่ไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ขอเขามาสมาชิกแต่ละคนจะเลือกมะพร้าวตามขนาดที่ต้องการแล้วปอกเปลือกเพื่อคัดแยกขนาดว่าลูกไหนจะไปทำอะไร ทำนก ทำกา ทำแก้วกาแฟคัดเสร็จนำมาเลื่อยหรือผ่าเอาเนื้อในออกซึ่งเอาออกยากมากและการแคะเนื้อออกต้องใช้ความชำนาญพิเศษ

เสร็จแล้วเอามาเจียด้วยกระดาษทรายหยาบและกระดาษทรายละเอียดจนถึงสำเร็จรูปแล้วมาตก แต่งขึ้นรูป ผลิตภัณฑ์บางตัว เช่น ทัพพี ตะหลิวมีไม้ตาลเป็นส่วนประกอบก็หาได้ในพื้นที่ส่วนผักตบที่นำมาตกแต่งสายไฟไปซื้อจากอีกกลุ่มที่อยู่ต่างจังหวัดแต่ซื้อครั้งละจำนวนมากจะได้ราคาถูก เก็บได้เป็นปีส่วนเครื่องมือในการทำมีมอเตอร์ สว่าน เลื่อย ตั้งกลุ่มเสร็จแล้วจึงซื้อแต่ช่วงที่ ทำนำร่องก็มีการซื้อเครื่องมาก่อนบ้างซึ่งเครื่องมือบางอย่างต้องมาดัดแปลงแก้ไขเพราะกะลาเป็นวัตถุดิบที่มีความกลมไม่เหมือนไม้ เครื่องมือส่วนใหญ่ที่เขาทำขึ้นเหมาะกับการทำไม้ฉะนั้นเราจึงต้องนำมาดัดแปลงเพื่อให้ใช้งานได้ซึ่งลงทุนไม่มาก

นายพีรพล กล่าวอีกว่าการพัฒนาตลาดเราเป็นกลุ่มเล็กแต่ก็ทำตลาดอย่างต่อเนื่องช่วงหลังรูปแบบของสินค้าเกิดจากการออกตลาด ออกบูธลูกค้าเอารูปแบบมาเสนอให้ทำ ทำให้เห็นรูปแบบใหม่ ๆ ก็มาช่วยกันคิดช่วยกันทำและลองตลาด เราขายอยู่ตลอดฝ่ายขายของเราจะบอกว่าอันนี้ทำแล้วขายได้ก็จะทำมีการทำบัญชียอดขายเดือนหนึ่งประมาณ 70,000-100,000 บาท

ปัจจุบันมีสินค้าประมาณ 20 ชนิด เครื่องประดับ เช่น สร้อยข้อมือ สร้อยคอแหวน ต่างหู กิ๊บ ปิ่นปักผม พวงกุญแจ หวี เครื่องใช้ เช่น ทัพพี ตะหลิวช้อน แก้วกาแฟอื่น ๆ ที่เป็นของโบราณ เครื่องตกแต่งบ้าน เช่น โคมไฟที่วางสบู่ ที่ใส่ทิซชูราคาสินค้าขึ้นกับความยากง่ายของสินค้าที่คำนวณออกมาว่าน่าจะอยู่ได้คำนวณจากต้นทุนของค่าแรง ราคาที่ต่ำสุดตั้งแต่ 10 บาท ถึง 1,500 บาทราคาถูกสุด 10 บาท ได้แก่พวงกุญแจ สร้อยคอ สร้อยข้อมือ กำไร

ซึ่งทำมาจากกะลาที่เราเจาะทิ้งจากการทำอุปกรณ์ชิ้นอื่น ๆซึ่งช่วงหลังไม่ต้องตระเวนหามะพร้าวเองแต่จ้างเขารวม ๆ ไว้แล้วไปขนเองตลาดที่เราขายมีส่วนราชการช่วยหาให้ เช่น พัฒนาชุมชน สหกรณ์ พาณิชย์เป็นตลาดงานฝีมือ งานโอทอป งานแปรรูป และเราไปเปิดบูธหาเองตามห้างส่วนตลาดมีทั้งต่างประเทศ กับตลาดในประเทศ สินค้าบางตัวแยกตลาด 2 ประเภทคือเดินตลาดขายเอง ก็จะทำประเภทที่ชาวบ้านซื้อได้กับรอออร์เดอร์จำพวกโคมไฟ ซึ่งตามโรงแรมจะสั่งทำส่วนต่างประเทศจะมีพ่อค้าที่เป็นบริษัทมารับซื้อเรารับจ้างผลิตสินค้าส่งไปหลายประเทศ ได้แก่ แคนาดา อเมริกา ญี่ปุ่น ไต้หวัน

สำหรับการผลิตสินค้าของกลุ่มนั้นมีทั้งมาร่วมกันผลิตที่กลุ่มและนำไปทำที่บ้าน ซึ่งสมาชิกจะได้ค่าแรงตามชิ้นงานตามความสามารถของแต่ละคน เช่น โคมไฟ1 ต้น จะได้ค่าแรงประมาณ 60-80 บาท แต่อุปกรณ์ทางกลุ่มจัดหาให้และกำไรที่ได้ตอนสิ้นปีนำมาจัดสรรคืนสมาชิกตามความสามารถของแต่ละคนซึ่งสมาชิกจะมีการให้คะแนนกันเองตามความสามารถของแต่ละคนก็จะจัดสรรค่าแรงให้เพิ่มตามสัดส่วนของคะแนนส่วนที่เหลือแบ่งเป็นทุนส่วนหนึ่งและเป็นการจัดการส่วนหนึ่ง

“อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา กลุ่มเราเป็นกลุ่มที่เข้มแข็งที่สุดไม่เคยได้รับงบประมาณของใครแต่เมื่อปีที่แล้วได้รับจากสหกรณ์ฯ 40,000 บาท นำมาซื้อเครื่องมือวัตถุดิบและใช้ในระบบการจัดการ และเคยได้รับจากพัฒนาชุมชนมา 3,500 บาทเมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมา

ตั้งแต่มี otop ช่วงแรก ๆเขาเห็นเราออกงานแล้วเขาก็ตามมาดูว่าใช้สิ่งเหลือใช้จึงช่วยเหลือเพราะเราใช้วัสดุในท้องถิ่นเกือบ 100% ประมาณ 5% เป็นพวกกาว ปลั๊กไฟหลอดไฟที่ต้องพึ่งพาตลาด แรงงานก็เป็นของเราผลิตภัณฑ์นี้มาจากท้องถิ่นในช่วง otopกำลังเป็นที่นิยมส่วนราชการมาช่วยเยอะ หลังจากนั้น otop หายไปครึ่งหนึ่งอีกครึ่งหนึ่งต้องเก่งจริงและต้องช่วยเหลือตัวเองจริง ๆจึงอยู่ได้ผลิตภัณฑ์ของเราได้รับการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ชุมชนหรือ มผช.”

นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะสหกรณ์จังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่ากลุ่มแปรรูปกะลามะพร้าวได้รับการอบรมการจัดทำบัญชีวิเคราะห์ต้นทุนและแผนธุรกิจภายใต้โครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์เมื่อปี2549 จากกรมส่งเสริมสหกรณ์ และได้รับสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียน จำนวน40,000 บาท ในปี 2550 เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนในการจัดซื้อวัตถุดิบ

กลุ่มนี้มีการจัดทำบัญชีของกลุ่มเป็นปัจจุบันและมีการผลิตสินค้าอย่างต่อเนื่องและเป็นกลุ่มที่มีการเชื่อมโยงเครือข่ายกับกลุ่มอื่น ๆ เช่น กลุ่มกะลาจ.นครนายก กลุ่มศิลปะประดิษฐ์ จ.หนองบัวลำภู มีการนำสินค้าไปฝากขายในโอกาสต่อไปสามารถ จะพัฒนาให้ก้าวหน้า ได้ เพราะมียอดขายอยู่แล้ว และในปีนี้สำนักงานสหกรณ์ได้สนับสนุนงบประมาณในการทำบรรจุภัณฑ์เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าของสินค้าให้มากขึ้นและยังช่วยหาตลาดให้เพิ่มมากขึ้น
สรุป
กะลามะพร้าวสมารถทำงนทำเงินให้กับเราทุกคนที่มีความสามารถให้มีเป็นอาชีพเสริมได้

วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

วันพฤหัสบดีที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

วันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ประโยชน์ในการใช้อินเทอร์เน็ต

มารยาทในการใช้อินเทอร์เน็ต
การเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ตของแต่ละคนมีจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน บางคนต้องการเพียงไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ บางคนต้องการอ่านข่าว หรือประกาศข่าว บางคนต้องการใช้สำหรับติดต่อสื่อสาร บางคนต้องการค้นหาข้อมูล หรือดาวน์โหลดโปรแกรม การใช้งานอินเทอร์เน็ตของผู้ใช้นั้นอาจส่งผลกระทบต่อผู้ใช้อื่นด้วยความตั้งใจหรือไม่ก็ตาม นับว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ผู้ใช้งานทุกคนจึงจำเป็นต้องเรียนรู้เรื่องของมารยาทในการใช้อินเทอร์เน็ต
เนื่องจากผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตมีเป็นจำนวนมากและเพิ่มขึ้นทุกวัน ทำให้การส่งข่าวสารถึงกันอาจจะสร้างปัญหาให้กับผู้ใช้อื่นได้ และเพื่อประโยชน์สูงสุดขององค์กรจึงมีข้อปฏิบัติให้สมาชิกได้ใช้เครือข่ายร่วมกัน สมาชิกจึงต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจในข้อบังคับนั้นและต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเองที่ให้บริการต่างๆ บนเครือข่าย และไม่ละเมิดหรือกระทำการใดๆ ที่สร้างปัญหาและไม่เคารพกฎเกณฑ์ที่แต่ละองค์กรวางไว้ และจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้บริหารเครือข่ายย่อยหรือองค์กรนั้นอย่างเคร่งครัด เครือข่ายไม่ได้เป็นขององค์กรเดียวแต่เป็นการเชื่อมโยงกันระหว่างหลายเครือข่ายเข้าด้วยกัน ทำให้มีข้อมูลข่าวสารเดินทางอยู่บนเครือข่ายเป็นจำนวนมาก ดังนั้นผู้ใช้บริการบนอินเทอร์เน็ตต้อให้ความสำคัญและตระหนักถึงปัญหาของข้อมูลข่าวสารที่เดินทางอยู่บนเครือข่าย
เพื่อประโยชน์ในการใช้อินเทอร์เน็ต ควรใช้งานอย่างสร้างสรรค์และเกิดประโยชน์ ซึ่งมีกิจกรรมบางอย่างที่ไม่ควรปฏิบัติ เช่น การกระจายข้อมูลไปปลายทางเป็นจำนวนมาก การส่งโปรแกรมหรือแฟ้มข้อมูลที่ติดไวรัสคอมพิวเตอร์ และการส่งจดหมายลูกโซ่ เป็นต้น

เทคโนโลยีสารสนเทศ

บทบาทความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทำให้มีการพัฒนาคิดค้นสิ่งอำนวยความสะดวกสบายต่อการดำชีวิตเป็นอันมาก เทคโนโลยีได้เข้ามาเสริมปัจจัยพื้นฐานการดำรงชีวิตได้เป็นอย่างดี เทคโนโลยีทำให้การสร้างที่พักอาศัยมีคุณภาพมาตรฐาน สามารถผลิตสินค้าและให้บริการต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์มากขึ้น เทคโนโลยีทำให้ระบบการผลิตสามารถผลิตสินค้าได้เป็นจำนวนมากมีราคาถูกลง สินค้าได้คุณภาพ เทคโนโลยีทำให้มีการติดต่อสื่อสารกันได้สะดวก การเดินทางเชื่อมโยงถึงกันทำให้ประชากรในโลกติดต่อรับฟังข่าวสารกันได้ตลอดเวลา
พัฒนาการของเทคโนโลยีทำให้ชีวิตความเป็นอยู่เปลี่ยนไปมาก ลองย้อนไปในอดีตโลกมีกำเนินมาประมาณ 4600 ล้านปี เชื่อกันว่าพัฒนาการตามธรรมชาติทำให้เกิดสิ่งมีชีวิตถือกำเนินบนโลกประมาณ 500 ล้านปีที่แล้ว ยุคไดโนเสาร์มีอายุอยู่ในช่วง 200 ล้านปี สิ่งมีชีวิตที่เป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ ค่อย ๆ พัฒนามา คาดคะเนว่าเมื่อห้าแสนปีที่แล้วมนุษย์สามารถส่งสัญญาณท่าทางสื่อสารระหว่างกันและพัฒนามาเป็นภาษา มนุษย์สามารถสร้างตัวหนังสือ และจารึกไว้ตามผนึกถ้ำ เมื่อประมาณ 5000 ปีที่แล้ว กล่าวได้ว่ามนุษย์ต้องใช้เวลานานพอสมควรในการพัฒนาตัวหนังสือที่ใช้แทนภาษาพูด และจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า มนุษย์สามารถจัดพิมพ์หนังสือได้เมื่อประมาณ 5000 ปีที่แล้ว กล่าวได้ว่าฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า มนุษย์สามารถจัดพิมพ์หนังสือได้เมื่อประมาณ 500 ถึง 800 ปีที่แล้ว เทคโนโลยีเริ่มเข้ามาช่วยในการพิมพ์ ทำให้การสื่อสารด้วยข้อความและภาษาเพิ่มขึ้นมาก เทคโนโลยีพัฒนามาจนถึงการสื่อสารกัน โดยส่งข้อความเป็นเสียงทางสายโทรศัพท์ได้ประมาณร้อยกว่าปีที่แล้ว และเมื่อประมาณห้าสิบปีที่แล้ว ก็มีการส่งภาพโทรทัศน์และคอมพิวเตอร์ทำให้มีการใช้สารสนเทศในรูปแบบข่าวสารมากขึ้น ในปัจจุบันมีสถานที่วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ แ ละสื่อต่าง ๆ ที่ใช้ในการกระจ่ายข่าวสาร มีการแพร่ภาพทางโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเพื่อรายงานเหตุการณ์สด เห็นได้ชัดว่าเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทอย่างมาก บทบาทของการพัฒนาเทคโนโลยีรวดเร็วขึ้นเมื่อมีการพัฒนาอุปกรณ์ทางด้านคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ จะเห็นได้ว่าในช่วงสี่ห้าปีที่ผ่านมาจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งมีคอมพิวเตอร์เข้าไปเกี่ยวข้องให้เห็นอยู่ตลอดเวลา

รูปแสดงการติดต่อสื่อสารผ่านดาวเทียม
นักเรียนลองจินตนาการดูว่า นักเรียนเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีด้านใดบ้างจากตัวอย่างต่อไปนี้ เมื่อตื่นนอนนักเรียนอาจได้ยินเสียงจากวิทยุ ซึ่งกระจายเสียงข่าวสารหรือเพลงไปทั่ว นักเรียนใช้โทรศัพท์สื่อสารกับเพื่อน ดูรายการทีวี วีดีโอเมื่อมาโรงเรียนเดินทางผ่านถนนที่มีระบบไฟสัญญาณที่ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ ถ้าไปศูนย์การค้า ขึ้นลิฟต์ ขึ้นบันไดเลื่อนซึ่งควบคุมการทำงานด้วยคอมพิวเตอร์ ที่บ้านนักเรียน นักเรียนอาจอยู่ในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศที่ควบคุมอุณหภูมิโดยอัตโนมัติ คุณแม่ทำอาหารด้วยเตาอบซึ่งควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้า จะเห็นว่าชีวิตในปัจจุบันเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเป็นอันมาก อุปกรณ์เหล่านี้ส่วนใหญ่ใช้ระบบคอมพิวเตอร์เป็นส่วนประกอบในการทำงาน
รูปแสดงเครื่องอำนวยความสะดวกภายในบ้าน
ในอดีตยุคที่มนุษย์ยังเร่ร่อน มีอาชีพเกษตรกรรม ล่าสัตว์ ต่อมามีการรวมตัวกันสร้างเมือง และสังคมเมืองทำให้เกิดอุตสาหกรรมการผลิต การผลิตทำให้เกิดการปฏิวัติทางอุตสาหกรรมที่เน้นการผลิตจำนวนมาก สังคมจึงเป็นสังคมเมืองที่มีอุตสาหกรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่หลังจากปี พ.ศ. 2530 เป็นต้นมา ระบบสื่อสารโทรคมนาคมและคอมพิวเตอร์ก้าวหน้ามาก ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคสังคมสารสนเทศ ชีวิตความเป็นอยู่เกี่ยวข้องกับข้อมูลข่าวสารจำนวนมาก การสื่อสารโทรคมนาคมกระจายทั่วถึง ทำให้ข่าวสารแพร่กระจ่ายไปอย่างรวดเร็ว สังคมในปัจจุบันเป็นสังคมไร้พรมแดนเพราะเรื่องราวของประเทศหนึ่งสามารถกระจายแพร่ออกไปยังประเทศต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
นิยามเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
คำว่าเทคโนโลยี หมายถึง การประยุกต์เอาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ การศึกษาพัฒนาองค์ความรู้ต่าง ๆ ก็เพื่อให้เข้าใจธรรมชาติ กฎเกณฑ์ของสิ่งต่าง ๆ และหาทางนำมาประยุกต์ให้เกิดประโยชน์ เทคโนโลยีจึงเป็นค้าที่มีความหมายกว้างไกล เป็นคำที่เราได้พบเห็นและได้ยินอยู่ตลอดมา
ลองนึกดูว่าทรายที่เราเห็นอยู่บนพื้นดิน ตามชายหาด ชายทะเลเป็นสารประกอบของซิลิกอน ทรายเหล่านั้นมีราคาต่ำและเรามองข้ามไป ครั้งมีบางคนที่เรียนรู้วิธีการแยกสกัดเอาสารซิลิกอนให้บริสุทธิ์ และเจือสารบางอย่างให้เกิดเป็นสิ่งที่เรียกว่าสารกึ่งตัวนำ นำมาผลิตเป็นทรานซิสเตอร์ และไอซี (Integrated Circuit : IC) ไอซีนี้เป็นอุปกรณ์ที่รวมวงจรอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมากไว้ด้วยกัน ใช้เป็นชิพซึ่งเป็นส่วนสำคัญของคอมพิวเตอร์ สารซิลิกอนดังกล่าวเมื่อผ่านกรรมวิธีทางเทคโนโลยีแล้วจะมีราคาสูงสามารถนำมาขายได้เงินเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเทคโนโลยีจึงเป็นหัวใจของการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพราะเรานำเอาวัตถุดิบมาผ่านเทคนิคการดำเนินการ จะได้วัตถุสำเร็จรูป สินค้าเหล่านี้จะมีมูลค่าเพิ่มจากวัตถุดิบนั้นมาก ประเทศใดมีเทคโนโลยีมากมักจะเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว เทคโนโลยีจึงเป็นหาทางที่จะช่วยในการพัฒนาให้สินค้าและบริการมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ทุกประเทศจึงให้ความสำคัญของการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ามาช่วยงานด้านต่าง ๆ
ส่วนคำว่าสารสนเทศ หมายถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ มนุษย์แต่ละคนตั้งแต่เกิดมาได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก เรียนรู้สภาพสังคมความเป็นอยู่ กฎเกณฑ์และวิชาการ ลองจินตนาการดูว่าภายในสมองของเราเก็บข้อมูลอะไรบ้าง เราคงตอบไม่ได้ แต่สามารถเรียกเอาข้อมูลมาใช้ได้ ข้อมูลที่เก็บไว้ในสมองเป็นสิ่งที่สะสมกันมาเป็นเวลานาน ความรอบรู้ของแต่ละคนจึงขึ้นอยู่กับการเรียกใช้ข้อมูลนั้น ดังนั้นจะเห็นได้ชัดความรู้เกิดจากข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ทุกวันนี้มีข้อมูลรอบตัวเรามาก ข้อมูลเหล่านี้มาจากสื่อ เช่น วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่การสื่อสารระหว่างบุคคล จึงมีผู้กล่าวว่ายุคนี้เป็นยุคของสารสนเทศ

รูปแสดงสื่อที่ช่วยในการรับส่งข้อมูล
ภายในสมองมนุษย์ซึ่งเป็นที่เก็บข้อมูลไว้มากมายจะมีข้อจำกัดในการจัดเก็บ การเรียกใช้ การประมวลผล และการคิดคำนวณ ดังนั้นจึงมีผู้พยายามสร้างเครื่องจักรเครื่องมือ เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการจัดการสารสนเทศ เช่นเครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งสามารถเก็บข้อมูลไว้ในหน่วยความจำได้มาก สามารถให้ข้อมูลได้แม่นยำและถูกต้องเมื่อมีการเรียกค้นหา ทำงานได้ตลอดวันไม่เหน็ดเหนื่อย และยังส่งข้อมูลไปได้ไกลและรวดเร็วมาก เครื่องจักรอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับสารสนเทศนั้นมีมากมายตั้งแต่เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์รอบข้าง ระบบสื่อสารโทรคมนาคมสมัยใหม่ ทำให้เกิดงานบริการที่อำนวยความสะดวกต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น การฝากถอนเงินผ่านเครื่องเอทีเอ็ม (Automatic Teller Machine : ATM) การจองตั๋วดูภาพยนตร์ การลงทะเบียนเรียนในโรงเรียน
เมื่อรวมคำว่าเทคโนโลยีกับสารสนเทศเข้าด้วยกัน จึงหมายถึงเทคโนโลยีที่ใช้จัดการสารสนเทศ เป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องตั้งแต่การรวบรวมการจัดเก็บข้อมูล การประมวลผล การพิมพ์ การสร้างรายงาน การสื่อสารข้อมูล ฯลฯ เทคโนโลยีสารสนเทศจะรวมไปถึงเทคโนโลยีที่ทำให้เกิดระบบการให้บริการ การใช้ และการดูแลข้อมูล
เทคโนโลยีสารสนเทศจึงมีความหมายที่กว้างขวางมาก นักเรียนจะได้พบกับสิ่งรอบ ๆ ตัวที่เกี่ยวกับการใช้สารสนเทศอยู่มาก ดังนี้
การเก็บรวบรวมข้อมูล เป็นวิธีการรวบรวมข้อมูลเข้าสู่ระบบ นักเรียนอาจเห็นพนักงานการไฟฟ้าไปที่บ้านพร้อมเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กเพื่อบันทึกข้อมูลการใช้ไฟฟ้า ในการสอบแข่งขันที่มีผู้สอบจำนวนมาก ก็มีการใช้ดินสอระบายตามช่องที่เลือกตอบ เพื่อให้เครื่องอ่านเก็บรวบรวมข้อมูลได้ เมื่อไปซื้อสินค้าที่ห้างสรรพสินค้าก็มีการใช้รหัสแท่ง (bar code) พนักงานจะนำสินค้าผ่านการตรวจของเครื่องเพื่ออ่านข้อมูลการซื้อสินค้าที่บรรจุในรหัสแท่ง เมื่อไปที่ห้องสมุดก็พบว่าหนังสือมีรหัสแท่งเช่นเดียวกันการใช้รหัสแท่งนี้เพื่อให้ง่ายต่อการเก็บรวบรวมwbr>wb
การประมวลผล ข้อมูลที่เก็บมาได้มักจะเก็บในสื่อต่าง ๆ เช่น แผ่นบันทึก แผ่นซีดี หรือเทป เป็นต้น ข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมาประมวลผลตามต้องการ เช่น แยกแยะข้อมูลเป็นกลุ่ม เรียงลำดับข้อมูล คำนวณ หรือจัดการคัดแยกข้อมุลที่จัดเก็บนั้น

รูปแสดง การประมวลผลให้ออกมาในรูปเอกสาร
การแสดงผลลัพธ์ อุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีในการแสดงผลลัพธ์มีมาก สามารถแสดงเป็นตัวหนังสือ เป็นรูปภาพ ตลอดจนพิมพ์ออกมาที่กระดาษ การแสดงผลลัพธ์มีทั้งที่แสดงเป็นภาพ เป็นเสียง เป็นวีดิทัศน์ เป็นต้น

รูปแสดง การแสดงผลลัพท์ทางหน้าจอคอมพิวเตอร์
การทำสำเนา เมื่อมีข้อมูลที่จัดเก็บในสื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ การทำสำเนาจะทำได้ง่าย และทำได้เป็นจำนวนมาก ดังนั้นอุปกรณ์ช่วยในการทำสำเนา จัดได้ว่าเป็นเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เรามีเครื่องพิมพ์ เครื่องถ่ายเอกสาร อุปกรณ์การเก็บข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น จานบันทึก ซีดีรอม ซึ่งสามารถทำสำเนาได้เป็นจำนวนมาก
การสื่อสารโทรคมนาคม เป็นวิธีการที่จะส่งจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง หรือกระจายออกไปยังปลายทางครั้งละมาก ๆ ปัจจุบันมีอุปกรณ์ระบบสื่อสารโทรคมนาคมหลายประเภท ตั้งแต่โทรเลข โทรศัพท์ เส้นใยนำแสง เคเบิลใต้น้ำ คลื่นวิทยุไมโครเวฟ ดาวเทียม เป็นต้น
ลักษณะสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ
โดยพื้นฐานของเทคโนโลยีย่อมมีประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าได้ แต่เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับวิถีความเป็นอยู่ของสังคมสมัยใหม่อยู่มาก ลักษณะเด่นที่สำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศมีดังนี้
เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ในการประกอบการทางด้านเศรษฐกิจ การค้า และการอุตสาหกรรม จำเป็นต้องหาวิธีในการเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานคอมพิวเตอร์และระบบสื่อสารเข้ามาช่วยทำให้เกิดระบบอัตโนมัติ เราสามารถฝากถอนเงินสดผ่านเครื่องเอทีเอ็มได้ตลอดเวลา ธนาคารสามารถให้บริการได้ดีขึ้น ทำให้การบริการโดยรวมมีประสิทธิภาพ ในระบบการจัดการทุกแห่งต้องใช้ข้อมูลเพื่อการดำเนินการและการตัดสินใจ ระบบธุรกิจจึงใช้เครื่องมือเหล่านี้ช่วยในการทำงาน เช่น ใช้ในระบบจัดเก็บเงินสด จองตั๋วเครื่องบิน เป็นต้น
เทคโนโลยีสารสนเทศเปลี่ยนรูปแบบการบริการเป็นแบบกระจาย เมื่อมีการพัฒนาระบบข้อมูล และการใช้ข้อมูลได้ดี การบริการต่าง ๆ จึงเน้นรูปแบบการบริการแบบกระจาย ผู้ใช้สามารถสั่งซื้อสินค้าจากที่บ้าน สามารถสอบถามข้อมุลผ่านทางโทรศัพท์ นิสิตนักศึกษาบางมหาวิทยาลัยสามารถใช้คอมพิวเตอร์สอบถามผลสอบจากที่บ้านได้
เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นสิ่งที่จำเป็น สำหรับการดำเนินการในหน่วยงานต่าง ๆ ปัจจุบันทุกหน่วยงานต่างพัฒนาระบบรวบรวมจัดเก็บข้อมูลเพื่อใข้ในองค์การประเทศไทยมีระบบทะเบียนราษฎร์ที่จัดทำด้วยระบบ ระบบเวชระเบียนในโรงพยาบาล ระบบการจัดเก็บข้อมูลภาษี ในองค์การทุกระดับเห็นความสำคัญที่จะนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้
เทคโนโลยีสารสนเทศเกี่ยวข้องกับคนทุกระดับ พัฒนาการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ดังจะเห็นได้จาก การพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์ การใช้ตารางคำนวณ และใช้อุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมแบบต่าง ๆ เป็นต้น
ผลของเทคโนโลยีสารสนเทศ
การกำเนิดของคอมพิวเตอร์เมื่อประมาณห้าสิบกว่าปีที่แล้ว เป็นก้าวสำคัญที่นำไปสู่ยุคสารสนเทศ ในช่วงแรกมีการนำเอาคอมพิวเตอร์มาใช้เป็นเครื่องคำนวณ แต่ต่อมาได้มีความพยายามพัฒนาให้คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์สำคัญสำหรับการจัดการข้อมูล เมื่อเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ได้ก้าวหน้ามากขึ้น ทำให้สามารถสร้างคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็กลง แต่ประสิทธิภาพสูงขึ้น สภาพการใช้งานจึงใช้งานกันอย่างแพร่หลาย ผลของเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีต่อชีวิตความเป็นอยู่และสังคมจึงมีมาก มีการเรียนรู้และใช้สารสนเทศกันอย่างกว้างขวาง ผลของเทคโนโลยีสารสนเทศโดยรวมกล่าวได้ดังนี้
การสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สภาพความเป็นอยู่ของสังคมเมือง มีการพัฒนาใช้ระบบสื่อสารโทรคมนาคม เพื่อติดต่อสื่อสารให้สะดวกขึ้น มีการประยุกต์มาใช้กับเครื่องอำนวยความสะดวกภายในบ้าน เช่น ใช้ควบคุมเครื่องปรับอากาศ ใช้ควมคุมระบบไฟฟ้าภายในบ้าน เป็นต้น
เสริมสร้างความเท่าเทียมในสังคมและการกระจายโอกาส เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้เกิดการกระจายไปทั่วทุกหนแห่ง แม้แต่ถิ่นทุรกันดาร ทำให้มีการกระจายโอการการเรียนรู้ มีการใช้ระบบการเรียนการสอนทางไกล การกระจายการเรียนรู้ไปยังถิ่นห่างไกล นอกจากนี้ในปัจจุบันมีความพยายามที่ใช้ระบบการรักษาพยาบาลผ่านเครือข่ายสื่อสาร
สารสนเทศกับการเรียนการสอนในโรงเรียน การเรียนการสอนในโรงเรียนมีการนำคอมพิวเตอร์และเครื่องมือประกอบช่วยในการเรียนรู้ เช่น วีดิทัศน์ เครื่องฉายภาพ คอมพิวเตอร์ช่วยสอน คอมพิวเตอร์ช่วยจัดการศึกษา จัดตารางสอน คำนวณระดับคะแนน จัดชั้นเรียน ทำรายงานเพื่อให้ผู้บริหารได้ทราบถึงปัญหาและการแก้ปัญหาในโรงเรียน ปัจจุบันมีการเรียนการสอนทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศในโรงเรียนมากขึ้น
เทคโนโลยีสารสนเทศกับสิ่งแวดล้อม การจัดการทรัพยากรธรรมชาติหลายอย่างจำเป็นต้องใช้สารสนเทศ เช่น การดูแลรักษาป่า จำเป็นต้องใช้ข้อมูล มีการใช้ภาพถ่ายดาวเทียม การติดตามข้อมูลสภาพอากาศ การพยากรณ์อากาศ การจำลองรูปแบบสภาวะสิ่งแวดล้อมเพื่อปรับปรุงแก้ไข การเก็บรวมรวมข้อมูลคุณภาพน้ำในแม่น้ำต่าง ๆ การตรวจวัดมลภาวะ ตลอดจนการใช้ระบบการตรวจวัดระยะไกลมาช่วย ที่เรียกว่าโทรมาตร เป็นต้น
เทคโนโลยีสารสนเทศกับการป้องกันประเทศ กิจการทางด้านการทหารมีการใช้เทคโนโลยี อาวุธยุทโธปกรณ์สมัยใหม่ล้วนแต่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์และระบบควบคุม มีการใช้ระบบป้องกันภัย ระบบเฝ้าระวังที่มีคอมพิวเตอร์ควบคุมการทำงาน
การผลิตในอุตสาหกรรม และการพาณิชยกรรม การแข่งขันทางด้านการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมจำเป็นต้องหาวิธีการในการผลิตให้ได้มาก ราคาถูกลงเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทมาก มีการใช้ข้อมูลข่าวสารเพื่อการบริหารและการจัดการ การดำเนินการและยังรวมไปถึงการให้บริการกับลูกค้า เพื่อให้ซื้อสินค้าได้สะดวกขึ้น
เทคโนโลยีสารสนเทศมีผลเกี่ยวข้องกับทุกเรื่องในชีวิตประจำวัน บทบาทเหล่านี้มีแนวโน้มที่สำคัญมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้เยาวชนคนรุ่นใหม่จึงควรเรียนรู้ และเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อจะได้เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศให้ก้าวหน้าและเกิดประโยชน์ต่อประเทศต่อไป

โทษของการใช้อินเทอร์เน็ต

จรรยาบรรณจรรยาบรรณ คือ ประมวลความประพฤติที่ผู้ประกอบอาชีพการงานแต่ละอย่างกำหนดขึ้น เพื่อรักษาและส่งเสริมเกียรติคุณชื่อเสียงและฐานะของสมาชิก อาจเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่ก็ได้จรรยาบรรณการใช้งาน อินเทอร์เน็ตจรรยาบรรณการใช้งาน อินเทอร์เน็ต คือ ข้อกำหนดที่ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต พึ่งกระทำ เพื่อดำรงไว้ซึ่งความสงบ ไม่ขัดต่อกฎหมาย (เฉลิมพล เหล่าเที่ยง : บ.สายสุพรรณ จำกัด)
1. ผู้ที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตต้องซื่อสัตย์ และมีคุณธรรม ตั้งหมั่นอยู่บน กฎหมายบ้านเมือง
2. ไม่นำผลงานของผู้อื่น มาเป็นของตน ในกรณีที่ต้องนำมาใช้งานต้องอ้างถึงบุคคล หรือแหล่งที่มาของข้อมูล ที่นำมาใช้
3. พึ่งระลึกเสมอว่าสิ่งที่นำเสนอบนอินเทอร์เน็ต อาจจะมีเด็กหรือผู้ที่ขาดประสบการณ์เข้ามาดูได้ตลอดเวลา ดังนั้นการนำเสนอข้อมูลควรที่จะเป็นไปในทางที่ดี มีคุณธรรม
4. ไม่ควรใส่ร้ายป้ายสี หรือสิ่งอื่นสิ่งใดอันจะทำให้บุคคลที่สามเกิดความเสียหายได้
5. การใช้คำพูดควรคำนึงถึงบุคคลอื่นๆ ที่อาจจะเข้ามาสืบค้นข้อมูลที่มีหลากหลาย จึงควรใช้คำที่สุภาพ
6. ไม่ใช้สื่ออินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือในการหลอกลวงผู้อื่นให้หลงผิด หลงเชื่อในทางที่ผิด
7. พึงระลึกเสมอว่า การกระทำผิดทางอินเทอร์เน็ตสามารถที่จะติดตามหาบุคคลที่กระทำได้ โดยง่าย
8. การกระทำความผิดทางอินเทอร์เน็ต บางกรณีเป็นอาชญากรรม ที่มีความผิดทางกฎหมาย
9. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ทำร้าย หรือละเมิดผู้อื่น
10. ต้องไม่รบกวน สอดแนม แก้ไข หรือเปิดดูแฟ้มข้อมูลของผู้อื่น
11. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการโจรกรรมข้อมูลข่าวสาร
12. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์สร้างหลักฐานที่เป็นเท็จ
13. ต้องไม่คัดลอกโปรแกรมของผู้อื่นที่มีลิขสิทธิ์
14. ต้องไม่ละเมิดการใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์โดยที่ตนเองไม่มีสิทธิ์
15. ต้องคำนึงถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับสังคมที่เกิดจากการกระทำของท่าน
16. ต้องใช้คอมพิวเตอร์โดยเคารพกฎระเบียบ กติกา และมีมารยาทภัยทาง อินเทอร์เน็ตอย่างไรก็ตามข้อยืนยันว่า การใช้งานอินเทอร์เน็ต ยังตั้งอยู่ในฝั่งของสิ่งที่ดี เช่น ทางด้านการศึกษา ทางด้านการสื่อสาร ทางด้านการเผยแพร่ความรู้ ผลงาน และผลผลิต แต่เนื่องจากสังคมอินเทอร์เน็ต เป็นสังคมที่ไม่สามารถมองเห็นซึ่งกันและกัน จึงมีทั้งคนดี และคนร้าย ดังนั้นการระวังป้องกันภัย ล่วงรู้ถึงภัยที่เคยมามาในอดีตจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากภัยทางอินเทอร์เน็ต สามารถแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ
1. ภัยที่เกิดกับบุคคล
2. ภัยที่เกิดกับเครื่องคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ต่างๆ ภัยที่เกิดกับบุคคลภัยที่เกิดกับบุคคลมักเกิดจากการหลอกลวง การกลั่นแกล้ง โดยผลที่ได้รับอาจจะทำให้ผู้ที่ได้รับความเสียหายเกิดความอาย เสียเงิน จนถึงขั้นเสียชีวิต ดั้งนั้นควรระมัดระวังในการใช้งานตัวอย่างภัยที่เกิดกับบุคคล
1. การกลั่นแกล้งโดยผ่านทาง Webboard เช่น นาย ก. มีความเกลียดชังนาย ข. จึงไปเขียนลงบน Webboard โดยกล่าวร้ายกับนาย ข. จึงทำให้นาย ข. เกิดความอับอาย
2. การหลอกลวงผ่านทางโฆษณาขายสินค้าด้วยวิธีการประมูล โดยผู้ที่จะเข้าร่วมประมูลต้องลงทะเบียนสมาชิกของเว็บไซต์ หลังจากนั้นผู้ซื้อจะต้องเสนอราคาซื้อแข่งขันกับผู้ซื้อรายอื่น เมื่อเสร็จสิ้นการประมูลถือว่ามีการทำสัญญาซื้อขายระหว่างผู้ประมูลและผู้เสนอขาย ในรายงานพบว่าเป็นการหลอกลวงมีหลายรูปแบบ เช่น ผู้ขายไม่ส่งมอบสินค้าเพราะไม่มีสินค้าอยู่จริง การปั่นราคาสินค้าสูงกว่าปกติ
3.การชำระค่าสินค้าด้วยบัตรเครดิต มีทั้งฝ่ายผู้ซื้อหลอกลวงผู้ขาย และผู้ขายหลอกลวงผู้ซื้อ เช่น ผู้ซื้อสั่งซื้อสินค้าเมื่อมีการตัดบัตรเครดิต หรือการหลอกขายสินค้าแล้วขอเบอร์บัตรเครดิต และรหัสแล้วนำไปทำบัตรปลอมเพื่อซื้อสินค้าอีกต่อ
4. การล่อลวงไปกระทำมิดีมิร้ายกับผู้หญิง เช่นล่วงละเมิดทางเพศ ดังที่ปรากฏทางหน้าหนังสือพิมพ์บ่อยๆ ส่วนมากจะมาในรูปแบบของการใช้งานโปรแกรม Chartroom ต่างๆ
5. เด็กที่เข้าเว็บที่มีการเสนอในทางรุ่นแรงอาจทำให้เด็กมีนิสัยชอบความรุนแรงมากยิ่งขึ้นตัวอย่างภัยที่เกิดกับเครื่องคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ต่างๆ
1. การปล่อยโปรแกรม Virus มาทางอินเทอร์เน็ต ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ได้รับ Virus จะเกิดอาการใช้งานไม่ปกติ หรือบางอย่างอาจจะลบข้อมูลทั้งหมด ไวรัสคอมพิวเตอร์ คือ โปรแกรมที่มีผู้เขียน เขียนขึ้นมาเพื่อขัดขวางการทำงานของคอมพิวเตอร์ ทำให้เสมือนว่าใช้งานกับคอมพิวเตอร์ไม่ได้ จนกระทั่งทำลายแฟ้มข้อมูล หรือทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานผิดปกติไปจากเดิม ส่วนการติดไวรัสอาจเกิดจากการนำเอาดิสก์ที่ติดไวรัสจากเครื่องหนึ่งไปใช้อีกเครื่องหนึ่ง หรืออาจผ่านระบบเครือข่ายหรือระบบสื่อสารข้อมูล โดยเฉพาะทาง Internet นั่นแหละแหล่งรวมไวรัส
2. ใช้วิธีการเข้าควบคุมโมเ ด็มของบุคคลอื่น เมื่อมีเครื่องคอมพิวเตอร์ติดไวรัส หลังจากที่เราเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแล้วไวรัสกำหนดคำสั่งให้ต่อเชื่อมอินเทอร์เน็ตใหม่อีกครั้ง แต่คราวนี้จะเป็นการเชื่อมโยงไปยังคู่สายที่อยู่เมืองนอก ดังนั้นการเสียค่าโทรศัพท์จะต้องเสียในอัตราโทรต่างประเทศ
3. Trojan Horse เป็นโปรแกรมที่ถูกเขียนขึ้นมาให้ทำตัวเหมือนว่าเป็นโปรแกรมทั่วไป เพื่อหลอกผู้ใช้ให้ทำการเรียกใช้งาน เมื่อถูกเรียกขึ้นมาแล้ว ก็จะเริ่มทำลายตามที่โปรแกรมได้กำหนดไว้ทันที จุดประสงค์ของคนเขียนม้าโทรจัน เพื่อที่จะล้วงความลับของระบบคอมพิวเตอร์บุคคลอื่น ม้าโทรจันนี้อาจจะถือว่าไม่ใช่ไวรัส เพราะเป็นโปรแกรมที่ถูกเขียนขึ้นมาโดด ๆ และจะไม่มีการเข้าไปติดในโปรแกรมอื่นเพื่อสำเนาตัวเอง แต่จะใช้ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผู้ใช้เป็นตัวแพร่ระบาดซอฟต์แวร์ที่มี ม้าโทรจันอยู่ในนั้นการป้องกันภัยทางอินเทอร์เน็ต การป้องกันภัยที่เกิดกับบุคคล
1. ไม่ควรสนทนา (Chart) กับบุคคลอื่นที่ไม่รู้จัก หรือไว้ใจได้
2. ไม่ควรใส่ชื่อที่อยู่จริงกับเว็บที่ไม่น่าไว้ใจ
3. ระลึกอยู่เสมอว่า บุคคลที่เรารู้จักทางเว็บอาจจะเป็นบุคคลที่ไม่พึงประสงค์
4. ระวังตัวทุกครั้งที่มีการลงทะเบียนกับเว็บต่างๆ เพราะท่านอาจกำลังตกอยู่ในสายตาของผู้ไม่ประสงค์ดี ที่กำลังจับตามองท่านอยู่
5. จงคิดไว้เสมอว่า ไม่มีใครยอมเสียผลประโยชน์ ถ้าไม่ได้อะไรตอบแทน
6. ทุกครั้งที่คนมาชวนสร้างรายได้ โดยทำ ธุระกรรมผ่านทางเว็บจงคิดเสมอว่า รายได้ที่สูงเกินความจริงอาจตกอยู่กลลวงของผู้ประสงค์ร้าย
7. การไปพบปะกับบุคคลที่ติดต่อผ่านทางเว็บไม่ควรไปอยู่ในที่ลับตา ควรอยู่ในที่รโหฐาน
8. ผู้ปกครองไม่ควรปล่อยให้ลูกเข้าเว็บที่ต้องห้าม หรือเว็บที่มีการนำเสนอภาพรุนแรง
9. การตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ให้กับลูกควรอยู่ในสายตาของผู้ปกครอง เช่นห้องรับแขก ห้องพักผ่อน
10. เมื่อเห็นบุคคลที่อยู่ไกล้ตัวท่านมีลักษณะการดำรงชีวิตที่เปลี่ยนไปควรรีบเสาะหาสาเหตุที่แท้จริง เพื่อป้องกับเหตุร้ายที่จะตามมาการป้องกันภัยที่เกิดกับเครื่องคอมพิวเตอร์
1. ทุกครั้งที่นำซอฟแวร์ที่ไม่ทราบแหล่งที่ผลิต หรือได้รับแจกฟรี ต้องตรวจสอบให้แน่ใจก่อนนำไปใช้ ว่ามีไวรัสหรือไม่ โดยใช้โปรแกรมประเภท สแกนไว้รัส
2. ควรตรวจสอบทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟแวร์อย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง
3. เตรียมแผ่นที่สะอาดไว้สำหรับบูตเครื่องเมื่อคราวจำเป็น
4. ควรสำรองข้อมูลไว้เพื่อเกิดความเสียหายจะได้มีไฟล์สำรองทุกครั้ง
5. พยายามสังเกตุสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นกับเครื่องอย่างสม่ำเสมอ เช่น การทำงานที่ช้าลง ขนาดไฟล์ หน้าจอแสดงผลแปลก ๆ ไดรฟ์มีเสียงผิดปกติ
6. ไม่นำแผ่นดิสก์ไปใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์อื่น ๆ ถ้ายังไม่ได้ปิดแถบป้องกันการบันทึก (Write Protect) หรือถ้าจำเป็นต้องเปิด ควรมีการ สแกนไว้รัสก่อนใช้งานทุกครั้ง
7. ควรแยกแผ่นโปรแกรม และแผ่นข้อมูลออกจากกันโดยเด็ดขาด
8. ไม่อนุญาตให้คนอื่นมาเล่นเครื่องคอมพิวเตอร์ของท่าน โดยปราศจากการควบคุมอย่างใกล้ชิด
9. ควรมีโปรแกรมป้องกันไวรัสไว้ใช้ตรวจสอบและป้องกัน โดยเฉพาะโปรแกรมป้องกันไวรัสรุ่นใหม่ ๆ จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันได้ดีขึ้นมาก
10. เมื่อมีการติดตั้ง โปรแกรม ป้องกันไวรัสแล้วมิได้จบเพียงแคนั้น ควรจะมีการ Update ไวรัสบ่อยๆ เพราะทุกๆ วันจะมีการสร้างไวรัสใหม่เสมอ
11. หมั่นติดตามข่าวด้าน Information Security และข่าวไวรัสใหม่ๆ ตลอดจนหมั่น Update Patch ให้กับระบบที่เราใช้งานอยู่เป็นประจำ 12. หลีกเลี่ยงการเปิดอ่านอี-เมล์และไฟล์ที่แนบมากับอี-เมล์ ถ้าไม่รู้แหล่งที่มาของ อี-เมล์ การ Update Virus หลังจากทีมีการติดติดโปรแกรม Anti-Virus ต่างๆ แล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ใช้งาน ควรที่จะมีการ Update โปรแกรมสแกนไวรัส บ่อยๆ เพื่อให้โปรแกรม Anti-Virus ของคุณทันสมัยอยู่เสมอในการกำจัดไวรัส เพราะทุกๆวัน โปรแกรมเมอร์ จะมีการสร้างไวรัส ตัวใหม่ๆ มาใช้งานดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการ Update ในกรณีที่ท่าน ใช้งานโปรแกรม แ ชนิดใด ควรที่จะเข้าไป Update ที่เว็บของโปรแกรมนั้นบ่อย ๆ 1. กรณีที่ใช้โปรแกรม Norton Anti-Virus สามารถ Update ได้ที่เว็บ http://securityresponse.symantec.com/avcenter/download.html2. กรณีที่ใช้โปรแกรม Mcafee VirusScan สามารถ Update ได้ที่เว็บhttp://download.mcafee.com/us/upgradeCenter/3. กรณีที่ใช้โปรแกรม PC-Cillin สามารถ Update ได้ที่เว็บhttp://www.trendmicro.com/download/product.asp?productid=1&show=ptn4. กรณีที่ใช้โปรแกรม PANDA Anti-Virus สามารถ Update ได้ที่เว็บhttp://www.pandasoftware.com/download/updates/

นาโนเทคโนโลยี

นาโนเทคโนโลยี (อังกฤษ: Nanotechnology)
คือ เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการจัดการ การสร้างหรือการวิเคราะห์ วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องจักรหรือผลิตภัณฑ์ที่มีขนาดเล็กมาก ๆ ในระดับนาโนเมตร(ประมาณ 1-100 นาโนเมตร) รวมถึงการออกแบบหรือการประดิษฐ์เครื่องมือเพื่อใช้สร้างหรือวิเคราะห์วัสดุในระดับที่เล็กมากๆ เช่น การจัดอะตอมและโมเลกุลในตำแหน่งที่ต้องการได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ส่งผลให้โครงสร้างของวัสดุหรืออุปกรณ์มีคุณสมบัติพิเศษขึ้นไม่ว่าทางด้านฟิสิกส์ เคมี หรือชีวภาพ และสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้
ประวัติ
ริชาร์ด ไฟน์แมน (Richard Feynman) เป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับว่า เป็นคนแรกที่แสดงความเห็นถึงความเป็นไปได้ และแนวโน้มของนาโนเทคโนโลยี ในการบรรยายเรื่อง “There’s planty of room at the bottom” ที่สถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย เมื่อปี ค.ศ. 1959 (พ.ศ. 2502) โดยการแสดงความเห็นถึงความเป็นไปได้ และโอกาสของประโยชน์ที่จะได้จากการจัดการในระดับอะตอมปี ค.ศ. 1974 (พ.ศ. 2517) ศาสตราจารย์ โนริโอะ ทานิกูชิ (Norio Taniguchi) แห่งมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์โตเกียวเป็นคนแรกที่เริ่มใช้คำว่า “Nanotechnology” (N. Taniguchi, "On the Basic Concept of 'Nano-Technology'," Proc. Intl. Conf. Prod. Eng. Tokyo, Part II, Japan Society of Precision Engineering, 1974)
นาโนเทคโนโลยีช่วยอะไรเราได้บ้าง
ความหวังที่จะฝ่าวิกฤติปัจจุบันของมนุษยชาติจากนาโนเทคโนโลยีมีดังนี้พบทางออกที่จะได้ใช้พลังงานราคาถูกและสะอาดเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมีน้ำที่สะอาดเพียงพอสำหรับทุกคนในโลกทำให้มนุษย์สุขภาพแข็งแรงและอายุยืนกว่าเดิม (มนุษย์อาจมีอายุเฉลี่ยถึง 200 ปี)สามารถเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรได้อย่างพอเพียงกับประชากรโลกเพิ่มศักยภาพในการติดต่อสื่อสารของผู้คนทั้งโลกอย่างทั่วถึง ทัดเทียม และพอเพียงเพิ่มศักยภาพในการสำรวจอวกาศมากขึ้น

ประโยชน์ของพลังงานและแหล่งน้ำมาใช้กับการผลิตไฟฟ้า

อันมีองค์ประกอบหลักได้แก่ คาร์บอน (C) และไฮโดรเจน (H) โดยอาจมีธาตุอื่น ๆ เช่น กำมะถัน ออกซิเจน ไนโตรเจน ปนมา จึงจำเป็นจะต้องผ่านขบวนการแยกแยะเสียก่อนจากโรงงานแยกก๊าซ เมื่อได้เอาสารประกอบอื่น ๆ ออกไปก็จะเหลือก๊าซที่มีส่วนประกอบของ CH4 ซึ่งค่อนข้างเป็นเชื้อเพลิงที่บริสุทธิ์ แต่เนื่องจากมีโมเลกุลของคาร์บอนน้อย ตัวเชื้อเพลิงจึงมีลักษณะเป็นก๊าซ และไม่สามารถทำให้เป็นของเหลวได้ในอุณหภูมิบรรยากาศ ไม่ว่าจะอัดแรงดันเข้าไปสักเท่าใด ก็ไม่สามารถแปรสภาพเป็นของเหลวได้ เว้นแต่ให้อยู่ในอุณหภูมิที่ต่ำมาก การเก็บรักษาในภาชนะจึงมีความซับซ้อน และต้องป้องกันความร้อนมิให้เข้าไปกระทบกับถังเก็บภายใน ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ต้องการบำรุงรักษาเป็นพิเศษ อีกทั้งต้องปล่อยไอระเหยของเชื้อเพลิงออกไปเป็นระยะ ๆ เพื่อให้รักษาระดับความเย็นไว้ ดังนี้ เมื่อไม่ได้ใช้เชื้อเพลิงจากการพักการใช้งานของยานยนต์ ก็จำเป็นต้องระบายไอระเหยออกทิ้งเป็นครั้งคราว จึงเป็นการสูญเสียพลังงาน อีกทั้งยังก่อให้เกิดมลภาวะในบรรยากาศได้ ถังเก็บก๊าซในยานยนต์จึงเป็นเพียงถังแรงดันสูงเท่านั้น การที่จะให้มีเชื้อเพลิงพอเพียงต่อการใช้งาน ก๊าซธรรมชาติจึงต้องถูกอัดไว้ที่แรงดันสูงเท่าที่จะสูงได้ สำหรับมาตรฐานสำหรับยานยนต์ก็จะอยู่ที่ 3600 PSI หรือประมาณ 245 เท่าของบรรยากาศ ภาชนะจึงต้องมีความแข็งแรงมาก ถ้าเป็นถังเหล็กก็จะมีน้ำหนักมากพอสมควร เช่น ถังบรรจุก๊าซที่เทียบพลังงานเท่ากับเชื้อเพลิงเบนซินขนาด 18 ลิตร จะมีน้ำหนักถึง 70 กิโลกรัม ก็เกือบ ๆ ข้าวสารหนึ่งกระสอบนั่นแหละ ถ้าท่านยังไม่คุ้นเคยก็ทดลองเอาข้าวสารหนึ่งกระสอบใส่ท้ายรถแล้วลองขับดู จะรู้สึกทันที สำหรับภาชนะอื่นที่เป็นวัสดุสังเคราะห์ เรียกทับศัพท์ว่าถังคอมโพซิส พวกนี้จะเบากว่ามาก นอกจากนี้ยังทำท่านตัวเบาไปด้วย เพราะเป็นถังที่มีราคาสูง อีกทั้งอายุการใช้งานสั้นกว่า นอกจากนี้การเติมแต่ละครั้ง ก็มีส่วนทำให้อายุการใช้งานลดลง เพราะความเครียดที่เกิดขึ้นจากการอัดก๊าซ และถูกปลดปล่อยออกจากการใช้เชื้อเพลิงไป ถ้าตรงนี้เข้าใจยากก็ให้นึกถึงการดัดลวดไปมาหลาย ๆ ครั้งเข้า ลวดก็ขาดได้ ถังคอมโพซิสก็เข้าข่ายนี้เช่นกัน

การประมงน้ำจืดและน้ำเค็มในประเทศไทย

แร่ (Mineral)แร่ (Mineral) หมายถึงสารที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มีส่วนประกอบทางเคมีที่แน่นอน ประกอบด้วยธาตุตั้งแต่ 1 ชนิดขึ้นไป มีการตกผลึกที่แน่นนอน เช่น คัลเซียมซัลเฟต (CaSO4) เรียกว่าแร่ แอนไฮไดรท์ บางชนิดประกอบด้วยแร่ชนิดเดียว เช่น เพชร ซึ่งประกอบด้วย คาร์บอน ในสภาวะที่เหมาะสมแร่จะเกิดการตกผลึก (Crystal) มีรูปร่างแน่นอนตามชนิดของแร่ เช่น ผลึก 6 เหลี่ยม 8 เหลี่ยม เป็นต้น ปัจจัยที่ทำให้เกิดผลึก. ระยะเวลาในการเย็นตัว ช่องว่างที่จะเกิดผลึก ความเข้มข้นของสารละลาย ปริมาณของสารละลาย** นักเรียนสามารถทำการศึกษาการตกผลึกได้ด้วยตัวเอง โดยติดต่อครูที่ห้องทดลองได้ตลอดเวลาชนิดของแร่ แบ่งออกเป็น 2 ชนิด1. แร่ปฐมภูมิ (Primary Minerals) เป็นแร่ที่เกิดจากการเย็นตัวของหินหนืดจะได้ผลึกและโครงสร้างที่แน่นอน2. แร่ทุติยภูมิ (Secondary Minerals) เกิดจากตะกอนหรือตกตะกอนทับถมของแร่ หรือหินที่ผุพังทางเคมี ทางฟิสิกส์ หรือชีวภาพ** ศึกษาภาพและรายละเอียดได้จากหนังสือ โดยติดต่อครูที่ห้องทดลองได้ตลอดเวลาสมบัติของแร่ 1. สมบัติทางกายภาพ (Physical Properties) เป็นสมบัติที่ตรวจสอบได้ง่ายราคาถูก เช่น การดูด้วยสายตา การจับ การใช้คุณสมบัตินี้ในการแยกแร่ต่างๆ เกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1901 โดยศาตราจารย์อัลบิน ไวสแบค ( Albin Weisback) นักวิยาศาสตร์ชาวเยอรมัน ซึ่งแบ่งคุณสมบัติต่าง ๆ ได้ดังนี้

ประโยชน์ของทรัพยากรประมงในท้องถิ่น

มุมมองจากอาจารย์มหาวิทยาลัยในสาธารณรัฐประชาชนจีน
4.1 สาธารณรัฐประชาชนจีนถือเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลกและรัฐบาลให้ความสำคัญต่อการอนุรักษ์และปกป้องการใช้ทรัพยากรพันธุกรรม โดยรัฐบาลให้คำจำกัดความทรัพยากรธรรมชาติว่าเป็น Whole - people owned หรืออีกนัยหนึ่ง State – ownership
4.2 ปัจจุบัน สาธารณรัฐประชาชนจีนอยู่ระหว่างการจัดทำร่างกฎหมาย ABS โดยตระหนักถึงบทบาทและความสำคัญของทรัพยากรพันธุกรรม ซึ่งจะไม่สามารถสร้างความมังคั่งให้กับประเทศได้หากต้องปล่อยทิ้งไว้กับธรรมชาติโดยไม่ใช้ประโยชน์ ดังนั้น กฎหมาย ABS ในอนาคตจะพยายามสร้างสมดุลย์ระหว่าง Conservation และ Utilization
5. นโยบายและกฎหมาย ABS ของอินโดนีเซีย
5.1 อินโดนีเซียมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับทรัพยกรธรรมชาติหลายฉบับ เช่น ด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติ การกักกันพืช สัตว์ ประมง ตลอดจนการคุ้มครองพันธุ์พืช แต่ยังไม่เกี่ยวกับ ABS โดยตรง ปัจจุบัน อยู่ระหว่างการปรับปรุง Law No.5 1994 on CBD Ratification
5.2 ปัจจุบันการเก็บตัวอย่าง Plant Genetic Ratification จะต้องขออนุญาตหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายจากภาครัฐ โดย PGR ที่ได้จะต้องแยกให้หน่วยงานที่รับผิดชอบของอินโดนีเซียเก็บรักษาไว้ครึ่งหนึ่งที่ธนาคารพันธุกรรม
6. นโยบายและกฎระเบียบ ABS ของไทย
6.1 หน่วยงานรับผิดชอบของไทยประกอบด้วย สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงพาณิชย์ และสภาวิจัยแห่งชาติ โดยมีสำนักความหลากหลายทางชีวภาพทำหน้าที่เป็น CBD National Focal Point
6.2 ปัจจุบัน ได้มีการยกร่างระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเข้าถึงและได้รับผล ประโยชน์ตอบแทนจากการใช้ทรัพยากรชีวภาพซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณา7. งานด้านทรัพยากรพันธุกรรมของรัฐซาราวัค มาเลเซีย
7.1 สถาบันความหลากหลายทางชีวภาพรัฐซาราวัค ตั้งขึ้นตามกฎหมายเพื่อรองรับการเข้าถึงทรัพยากรพันธุกรรมและการรักษาภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยสร้างระบบเชื่อมโยงการดำเนินงานที่เกี่ยวกับความหลากหลายทางชีวภาพของท้องถิ่นและสถาบันต่างประเทศ
7.2 การดำเนินงานของสถาบันอยู่ภายใต้กฤษฎีกา Surawak Biodiversity Centre พ.ศ. 2520 และฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2546 โดยการเข้าถึงทรัพยากรพันธุกรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นจะต้องปฏิบัติตาม (1) Material Transfer Agreement (2) Memorandum of Agreement และ (3) การขออนุญาตเพื่อการวิจัย
8. นโยบายและหลักเกณฑ์ทางชีวภาพของฟิลิปปินส์
8.1 ฟิลิปปินส์ออกกฎหมายการอนุรักษ์และปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ พ.ศ. 2544 และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้บังคับการเก็บรวบรวมและการเข้าถึงพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น พืช สัตว์ และ จุลินทรีย์ เพื่อใช้ประโยชน์ด้านงานวิจัย และการศึกษาพัฒนาเพื่อใช้ประโยชน์ด้านการค้า
8.2 สำหรับการแบ่งปันผลประโยชน์ให้กับเจ้าของทรัพยากรรัฐบาลฟิลิปปินส์กำหนดให้จ่ายค่า Royalties ขั้นต่ำร้อยละ 2 จากยอดขายต่อปี โดยแบ่งให้ภาครัฐบาลร้อยละ 25 และผู้ครอบครองผลประโยชน์ในท้องถิ่นร้อยละ 7ข้อสังเกตปัจจุบันเพื่อนบ้านของไทยมีความก้าวหน้าในด้านความหลากหลายทางชีวภาพค่อนข้าง มากเมื่อเปรียบเทียบกับไทย ทั้งนี้ ในระหว่างการสัมมนาผู้แทนมาเลเซียได้เชื้อเชิญให้บริษัทต่างชาติเข้าไปศึกษาและเก็บตัวอย่าง พืช สัตว์ จุลินทรีย์ และดำเนินงานวิจัยร่วมกันโดยพร้อมให้การอำนวยความสะดวกในด้านการขออนุญาต เนื่องจากได้พิจารณาแล้วเห็นว่าจะเป็นช่องทางในการนำความหลากหลายทางชีวภาพในท้องถิ่นมาสร้างประโยชน์ รวมทั้งยังช่วยสร้างรายได้ให้เจ้าของทรัพยากรในท้องถิ่นและรักษาภูมิปัญญาในท้องถิ่นได้ โดยต่างจากประเทศไทยซึ่งผู้บรรยาย (ดร.บรรพต ณ ป้อมเพชร) ได้ชี้ให้เห็นถึงสภาพปัญหาซึ่งนักวิชาการไม่ทราบนโยบายและทิศทางที่ชัดเจนจากภาครัฐและมีผลกระทบต่อการศึกษาวิจัยด้านพันธุกรรมและชีววิทยา รวมทั้งงานวิจัยด้านการตัดแต่งทางพันธุกรรม ดังนั้น จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องได้รับการแก้ไขและสนับสนุนอย่างจริงจัง เพื่อให้ความหลากหลายทางชีวภาพของไทยก้าวทันประเทศอื่นๆในเอเซียต่อไป